เคล็ดลับ SEO เขียนบทความให้ดีดึงดูดผู้อ่าน

เคล็ดลับการทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ต้องมีบทความที่ดีเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ แม้จะศึกษากลยุทธ์การตลาดมาดีแค่ไหน แต่ถ้าคลิกเข้าในเว็บไซต์แล้วพบกับบทความเก่า ๆ ไม่มีข้อมูลทันสมัยหรือเขียนไม่รู้เรื่อง ไม่น่าอ่าน ความสนใจในเบื้องต้นของลูกค้าจะหมดลงและไม่คลิกเข้ามาเพื่ออ่านบทความในเว็บไซต์อีก วิธีการเขียนบทความให้ดีทำอย่างไร มาอ่านเนื้อหากันเลย

1.การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม นับเป็นก้าวแรกของการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับในหน้าแรกของ Google คีย์เวิร์ดที่ดีมีความสำคัญ ควรเลือกคำที่มีความหมายตรงกับความต้องการของคนหรือตรงกับปัญหาและเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุด ซึ่งหมายความว่าคีย์เวิร์ดอาจเปลี่ยนไปตามความนิยมของลูกค้า จึงต้องทำการตลาดด้านคีย์เวิร์ดในเวลานั้นเพื่อนำมาปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ

2.เขียนบทความน่าอ่านและมีประโยชน์ คีย์เวิร์ดที่ดีเป็นเรื่องของการตลาด เลือกคำเหมาะสมทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกค้นเจอและส่งผลให้ธุรกิจของเราติดอันดับในการค้นหา แต่ถ้าใส่คีย์เวิร์ดไปแล้วแต่ในเว็บไซต์ม่มีข้อมูลอะไรที่ให้ประโยชน์กับผู้อ่าน เว็บไซต์ของคุณคงไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป ทำให้การทำ SEO เสียเวลาเปล่า ถึงแม้ว่าจะมีการคลิกเข้าเว็บไซต์ปริมาณมากขึ้นแต่คลิกออกโดยเร็วการทำ SEO จึงไม่มีประสิทธิภาพ หากไม่สามารถเขียนบทความด้วยตนเอง ขอแนะนำให้จ้างนักเขียนที่มีฝีมือและสไตล์การเขียนที่โดดเด่นมาช่วยทำคอนเทนต์ให้ปัง โดยคิดในมุมของคนอ่านว่าสนใจอะไรและสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทำให้บทความนั้นมีสีสัน กระตุ้นให้คนติดตามอ่านอย่างต่อเนื่อง

3.การใช้คีย์เวิร์ดแทรกในบทความอย่างลงตัว การเขียนเนื้อหาบทความที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเว็บไซต์จะต้องเลือกคีย์เวิร์ดที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันต้องมีความกลมกลืนกับเนื้อหาด้วย หากเป็นการยัดเยียดคำลงไป อ่านแล้วไม่สละสลวยทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจย่อมไม่เกิดประโยชน์ ก่อนเขียนบทความต้องเลือกคีย์เวิร์ดว่ามีกี่คำ ต้องการใส่คำละกี่ครั้ง วางแผนเสร็จแล้วเขียนร่างเนื้อหาบทความออกมาก่อน เพื่อให้ครอบคลุมข้อมูลสำคัญและทำให้ขั้นตอนการเขียนง่ายและเร็วขึ้น มีการเรียงลำดับเนื้อหาอย่างเหมาะสม จากนั้นจึงใส่คีย์เวิร์ดแทรกลงไป นอกจากนี้ยังใส่คีย์เวิร์ดในชื่อหน้าเว็บได้ ใส่คีย์เวิร์ดในหัวข้อย่อยของบทความด้วย รวมไปถึงการใช้คีย์เวิร์ดเป็นชื่อของไฟล์รูปภาพ, ใน URL และใน Description เพื่อให้ค้นหาเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

หากคุณยังไม่ทราบว่าควรใช้คีย์เวิร์ดแบบไหนดี แนะนำให้ใช้เครื่องมือค้นหาเป็นตัวช่วยเลือกคีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner, Keysearch, Ubersuggest เลือกมาหลาย ๆ คำที่มีความหมายใกล้เคียงเพื่อให้เลือกใช้ได้และปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ควรแทรกคีย์เวิร์ดในบทความอย่างเป็นธรรมชาติและมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เนื้อหาบทความดี ๆ ดึงดูดผู้ชมมากขึ้นอีกระดับ

เทคนิคสร้าง SEO ให้ได้ผลจริง

SEO (Search Engine Optimization) คือวิธีการปรับการแต่งเว็บไซต์ ทั้งการปรับปรุงเนื้อหา และการเพิ่ม Backlink หรือลิงค์คุณภาพมายังเว็บไซต์เพื่อโปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ ของ Search Result Page ซึ่งเป็นหน้าการแสดงผลการค้นหา ซึ่งเมื่อกรอก Keyword หรือคำค้นหาที่ต้องการผ่าน Search Engine หรือเครื่องมือการค้นหา อย่าง Google, Yahoo!, Bing ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์

แต่ละ Search Engine ก็มีหลักการที่ไม่ต่างกันนัก นั่นคือการใช้ User Experience (UX) หรือการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด การทำ SEO ตามหลักของ Google จึงเป็นการทำเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ มีข้อมูลตรงตาม Keyword ที่ใช้ค้นหา และยังส่งผลของการทำ SEO ใน Search Engine อื่น ๆ ด้วย

Keyword คือคำหรือวลีที่ผู้คนใช้ค้นหาสิ่งที่ตนเองต้องการด้วย Search Engine ทั้งสินค้า บริการ ปัญหา หรือความต้องการอื่น ๆ เมื่อทำการเสิร์ชอะไรบางอย่าง แล้วในเว็บไซต์มีประโยคที่มี Keyword อยู่ เว็บไซต์นั้นก็จะแสดงบนหน้าของ Search Engine เมื่อเข้าใจพฤติกรรมการค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย ก็จะช่วยให้สามารถเลือก Keyword ได้ถูกต้อง ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก และมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากขึ้น

ประเภทของ Keywords

  • Generic Keyword หรือ Keyword ทั่วไป เป็นคำหรือวลีกว้าง ๆ ไม่เฉพาะเจาะจง ควรเป็นคำที่มีปริมาณการค้นหาสูงมาก ข้อดีคือช่วยให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับได้ง่าย ทำให้เว็บไซต์ และธุรกิจเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น แต่โอกาสติดอันดับต้น ๆ ค่อนข้างยาก เพราะเป็นคำที่มีปริมาณการค้นหาสูง ทำให้มีคู่แข่งมากตามไปด้วย
  • Niche Keyword เป็นการกำหนด Keyword ที่แคบขึ้นมาอีกเล็กน้อย ข้อดีคือทำให้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ดีขึ้น ตรงตามความต้องการของผู้เสิร์ชมากขึ้น สร้างโอกาสในการขายได้ดีขึ้น และช่วยลดคู่แข่งได้ดีกว่าการใช้ Generic Keyword
  • Longtail Keyword เป็น Keyword ที่เฉพาะเจาะจงตรงตามความต้องการของผู้เสิร์ชอย่างชัดเจน แม้ปริมาณการค้นหาจะต่ำก็ตาม อาจเรียกได้ว่าเป็น Keyword ที่สามารถทำเงินได้ดี เพราะผู้เสิร์ช Keyword กลุ่มนี้ คือผู้ที่มีความต้องการสินค้าและบริการอย่างชัดเจนแล้ว

ขั้นตอนการเขียนบทความที่ดีต่อ SEO

  1. เลือกหัวข้อที่จะเขียน ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ เพราะการคลิกเลือกเว็บไซต์จะเลือกจากหัวข้อที่สนใจก่อน
  2. ค้นหาคีย์เวิร์ดที่คนใช้เสิร์ชมาก ๆ และตรงกับเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ โดยลองพิมพ์คำที่สนใจบนช่องการค้นหาของ Google และดูคำยอดนิยมที่แสดงขึ้นมา ทำให้ทราบปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้น ๆ รวมถึงคำใกล้เคียงกันด้วย
  3. เขียนเนื้อหาที่ครอบคลุมกับ Keyword และมีความยาวของบทความที่ไม่สั้นจนเกินไป เนื้อหาควรครอบคลุมหลาย ๆ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง โดยมาก Google ค่อนข้างชอบบทความที่ค่อนข้างยาว เพราะสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาของบทความได้ดีกว่าบทความสั้น ๆ
  4. เขียนคอนเทนต์คุณภาพที่สร้างประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่เขียนย่อหน้าแรกยาวมากเกินไป จนไม่ดึงดูดใจของผู้อ่าน อาจใช้มีเดียอื่น ๆ อย่าง รูปภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์
  5. นำคีย์เวิร์ดที่ต้องการมาใช้กับคอนเทนต์ ใส่คีย์เวิร์ดในส่วนต่าง ๆ ของบทความ หรือใส่คีย์เวิร์ดไว้ในลิงก์ URL หรือรูปภาพก็ได้
  6. การแชร์บนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงบทความนั้น ๆ เพิ่มโอกาสการเข้าชมมากขึ้น
  7. การวิเคราะห์ผลลัพธ์ วิเคราะห์ผลลัพธ์ผ่าน Google analytics เพื่อดูพัฒนาการของเว็บไซต์ และหาทางปรับปรุงต่อไป

อยากทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง ทำยังไง ?

ปัจจุบันนี้มีร้านขายสินค้าและบริการมากมายที่เป็นคู่แข่งทางการค้าบนโลกออนไลน์ การแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้นหลายเท่าตัวในช่วง covid ที่ใคร ๆ ต่างมาขายในโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้นย่อมทำให้เราต้องมองหาวิธีว่าจะทำการตลาดออนไลน์ให้ปังอย่างไรได้บ้าง

จ้างคนดังโปรโมต

เน็ตไอดอลเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ดีสำหรับการขายของบนอินเทอร์เน็ต เพราะเป็นคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักและเกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้าง่าย หากจ้างดาราอาจใช้งบประมาณมากเกินไปสำหรับบริษัทเล็ก ๆ เราจึงแนะนำให้ค้นหาดูว่ามีเน็ตไอดอลคนไหนบ้างที่มียอดผู้ติดตามเยอะ เพื่อจ้างประชาสัมพันธ์โฆษณาสินค้าให้โดยมีสัญญาจ้างงานที่ชัดเจนตามแต่จะตกลงกัน

ทำแคมเปญลดแลกแจกแถม

ในยุค covid ทุกคนต้องรัดเข็มขัดประหยัดและจ่ายเงินซื้อของที่ลดราคาคุ้มค่า ดังนั้นการทำแคมเปญลดแลกแจกแถมจึงจำเป็นอย่างมาก เช่น ทำโปรโมชั่น 3 แถม 1, ทุกชิ้น 100 บาทเท่ากัน, จัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย, รับประกันสินค้าซ่อมฟรี 1 ปี ฯลฯ เป็นต้น เป็นเทคนิคที่ทำให้ผู้คนสนใจมากขึ้น และเพิ่มลูกค้าประจำได้ด้วย

มีบริการหลังการขายที่ดี

หลายคนคิดว่าการทำการตลาดจบแล้ว เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าไป แต่ที่จริงแล้วต้องมีส่วนของบริการหลังการขายตามมาด้วย เช่น การติดตามสอบถามความพึงพอใจในสินค้าและบริการ การสอบถามปัญหาจากการใช้งานเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สั่งซื้อไป เป็นต้น

เชิญชวนให้มารีวิว

ผู้คนนิยมซื้อสินค้าจากรีวิวมากขึ้น เพื่อดูประสบการณ์ของผู้คนจากการใช้งานจริง ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการออนไลน์ยุคใหม่จึงมักเชิญชวนให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้วกลับมารีวิว โดยแลกกับการมอบชุดทดลองของสินค้าใหม่ ๆ เป็นการขอบคุณหรือเป็นแต้มส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป

ทำบทความ SEO

การทำบทความ SEO เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้า เช่น ทีเด็ดบอลสูงต่ำ มีการให้ทีมบอลเต็งจากราคาบอล O/U หรือการแนะนำคุณภาพสินค้า ให้รายละเอียดสเปกสินค้า สอนวิธีการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ สอนเทคนิคการดูแลข้าวของเครื่องใช้ในบ้านให้มีอายุนาน ฯลฯ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจเมื่อเข้าไปอ่านในเพจ รู้สึกว่าบริษัทมีความจริงใจต่อลูกค้า มากกว่าการเน้นโฆษณาสินค้าเพียงอย่างเดียว และจะเกิดการแชร์บอกต่อที่มากขึ้น ทำให้ลูกค้าขยายวงกว้างขึ้นด้วย

ตลาดออนไลน์ในปัจจุบันต้องมีการปรับตัวอย่างมาก ผู้ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคหลากหลายวิธีการที่เราแนะนำไปเข้าด้วยกัน จะเป็นบริษัทที่สามารถอยู่รอดได้และมียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นสวนกระแสอย่างแน่นอน

ทำไมจึงกล่าวว่า SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์

ทำไมจึงกล่าวว่า SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์

SEO หรือ search engine optimization เป็นสิ่งที่เปรียบได้กับหัวใจของการทำเว็บไซต์ในวงการธุรกิจออนไลน์เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการค้นหาด้วย search engine ชื่อดังต่าง ๆ ไม่ว่า google yahoo ที่คนทั่วโลกนิยมใช้ในการสืบค้นข้อมูลทุกประเภทในโลกอินเตอร์เน็ต การทำ SEO จึงต้องใส่ใจทั้งส่วนเนื้อหา หรือ content ในเว็บไซต์และส่วนงานโครงสร้าง หรือ site structure รวมถึงการเชื่อมต่อหรือ backlink อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่ากับการลงทุนด้านเงินและเวลาในการทำ SEO

สำหรับข้อดีหรือคุณประโยชน์ของการทำ SEO ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้คือ จะทำให้การนำเสนอเว็บไซต์ของสินค้าและบริการมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเป้าหมายที่กำลังต้องการซื้อ หรือมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาในขณะนั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด เนื่องจากการทำ SEO จะมีการระบุคีย์เวิร์ดที่ตรงกับลักษณะสินค้าและบริการมากที่สุด จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการฝากประกาศหรือโฆษณาที่มีความจำเพาะต่อกลุ่มเป้าหมายน้อยกว่า ซึ่งต้องยอมรับว่าการแข่งขันทางธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจอย่างปัจจุบัน จำเป็นต้องช่วงชิงจังหวะ หรือภาษาง่าย ๆ คือ ใครที่เข้าถึงลูกค้าได้ก่อนย่อมได้เปรียบ การทำ SEO จึงช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้

SEO หัวใจของธุรกิจออนไลน์

สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำ SEO โดยทั่วไปจะอยู่ที่หลักพันบาทต่อเดือน โดยควรพิจารณาเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยการขอดูผลงานเก่า ๆ หรือรายงานความพึงพอใจที่ผ่านมาของลูกค้าบริษัทก่อนที่จะทำสัญญาว่าจ้างทำ SEO เนื่องจากงานการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบการสืบค้นสากล ที่มีประสิทธิภาพในการขึ้นเป็นอันดับท็อปไฟฟ์หรือท็อปเท็น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ จำเป็นต้องมีทีมที่เชี่ยวชาญด้าน SEO ทั้งส่วน on-page และ off-page ในการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบวิเคราะห์ของ search engine ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคอร์สรับทำ SEO มักจะมีระยะเวลาในสัญญาระบุไว้เป็นช่วงยาวหลายเดือนหรือเป็นสัญญาปีต่อปี เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด

ระยะเวลารอคอยให้เห็นผลลัพธ์จากการทำ SEO ยังต้องขึ้นกับประเภทธุรกิจด้วย กล่าวคือ หากเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงในภาคเอกชน เช่น การขายทัวร์ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ การขายคอร์สดูแลความงามของคลีนิคผิวพรรณ ฯลฯ มักจะมีการจ้างงานบริษัททำ SEO ที่มีความเป็นมืออาชีพอันดับต้น ๆ ของวงการสื่อออนไลน์ จึงทำให้การแข่งขันด้วยการสร้าง content ใหม่ ๆ และการอัพเดตดาต้าในเว็บไซต์ของบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการนำเข้าสู่ระบบ algorithm หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิคของ search engine นั่นเอง

SEO จึงเปรียบได้กับอวัยวะสำคัญ อย่างหัวใจ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายและกำไรของธุรกิจ และยังช่วยให้การกำหนดทิศทางพัฒนาหรือแก้ไขจุดบกพร่องของธุรกิจมีความเด่นชัดยิ่งขึ้นด้วย

SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์

จ้างทำ SEO อย่าเน้นที่ราคาถูกเท่านั้น

การทำ SEO เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือก Location ที่ดีที่สุด สำคัญต่อร้านอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลต่อยอดขายและกำไรของธุรกิจอย่างชัดเจน หากคุณมีสินค้าดี แต่ไม่สามารถทำให้ลูกค้ารู้ได้ว่ายังมี ของดี อยู่ตรงนี้ ก็จะทำให้ เสียโอกาส และ ชวด ลูกค้าไปให้คู่แข่ง ซึ่งเรียกได้ว่า เสียหายหลายแสน ยิ่งกว่า การเสียค่าจ้างทำ SEO อย่างแน่นอน ซึ่งการทำ SEO ที่บางคนอาจเคยเห็น คือ การแทรก keyword ลงในบทความคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดที่มีความสัมพันธ์กับสินค้าและบริการที่ธุรกิจคุณทำและต้องมีเนื้อหาที่ให้สาระเพียงพอแก่ลูกค้า ไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเสียเวลา เสียค่าเน็ตโดยเปล่าประโยชน์

การทำ SEO ไม่ใช่ใครก็ได้

ทั้งนี้ ในการทำ SEO ไม่ใช่ว่าจะจ้างใครทำก็ได้ เพราะเมื่อลอง search หาตามกูเกิ้ล search engine สุดฮิตของคนไทย ก็ยังพบว่า รับทำบทความ SEO ราคาถูก มาแข่งด้านราคากันอยู่ แลดูไม่ต่างจากร้านค้าที่แข่งกันลดราคา ซึ่งหากผู้ซื้อไม่ใส่ใจว่าคุณภาพของสินค้า หรือ บทความจะมีความน่าดู น่าอ่านเพียงใด ก็ย่อมส่งผลประสิทธิผลที่ตามมาจากการลงทุนจ้างที่เสียเปล่าอย่างไม่ต้องคาดเดา

หากเป็นอดีต สัก 10 ปีที่แล้ว การจ้างงานบริษัทใหญ่ ๆ ที่รับทำ SEO จะเป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถการันตีปริมาณ หรือจำนวนบท / หน้า และการแลกลิ้งค์ เพื่อสร้าง Blacklink ที่ทำให้ search engine เข้าใจหรืออนุมานว่าเกิดจากการนิยมแชร์บอกต่อ ๆ ของลูกค้า แต่ปัจจุบัน เนื้อหาที่มีคุณภาพและการใช้ภาษาที่สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงใจ มีความสำคัญยิ่งกว่าหลายเท่าตัว เนื่องจากเทรนด์การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเลือกดูข้อมูล การตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคนยุค millennial หรือ ปัจจุบันก็อยู่ในช่วงวัย 18 – 34 ปี ไม่เหมือนคนยุคเก่าอีกแล้ว

การใช้ภาษาที่แสดงถึงความจริงใจ ซื่อสัตย์ สมเหตุสมผล ไม่โฆษณาอย่าง hardcore โจ่งแจ้ง มีความสำคัญเช่นเดียวกับเนื้อหาที่ต้องมีความแน่นหนักชัดเจนของความถูกต้องและเชื่อถือได้จริง หากมีการอ้างอิงตามหลักวิชาการก็จะยิ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจที่ขายสินค้าทางด้านสุขภาพ เช่น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือแม้แต่กลุ่มสินค้าการกีฬา ก็ยังจำเป็นต้องเลือกผู้เขียนที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ เภสัชกร วิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ ผู้ที่มีประสบการณ์เล่นกีฬาจริง ๆ จึงจะได้ content SEO ที่ เข้าถึง ผู้อ่านได้จริง

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO ไม่ใช่ใครหรือบริษัทไหนก็รับทำ SEO ที่ให้ผลงานถูกใจเหมาะกับธุรกิจคุณได้ หากคุณเน้นเรื่องคุณภาพบทความ SEO และภาพลักษณ์ของธุรกิจ (หากคุณเน้นเรื่องปริมาณ ก็สามารถใช้โมเดลแบบเดิม ๆ ได้)

จ้างทำ SEO อย่าเน้นที่ราคาถูกเท่านั้น

โปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO และ SEM

ทุกวันนี้ผู้ประกอบธุรกิจสนใจทำเว็บไซต์กันมาก แต่เว็บไซต์ของกลุ่มสตาร์ทอัพยังคงเงียบเหงา อยากจะซื้อโฆษณาก็ติดขัดเรื่องต้นทุนสูงเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ เห็นใครๆ คุยกันเรื่องการทำSEOเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกๆ ของกูเกิ้ล พอเข้ามาศึกษาหาความรู้แล้วสะดุดกับคำว่า SEM เข้าอีก เริ่มสับสนว่าอะไรเป็นอะไร ต้องการคำแนะนำที่เข้าใจง่ายๆ ว่ามีวิธีอะไรที่นักธุรกิจมือใหม่ควรทำเพื่อช่วยโปรโมทเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขายเพื่อขยายฐานลูกค้าให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

การโปรโมทในลักษณะการทำSEO จะเป็นการไต่ลำดับในกูเกิ้ลแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากดึงดูดผู้ชมเข้ามาจำนวนมากขึ้น รอเวลาให้ผู้บริโภคพิจารณาและตัดสินใจเลือกซื้อ ยิ่งมีคนเข้ามาเห็นมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น ในส่วนของวิธีการนั้น มาเริ่มทำความรู้จักSEOกันก่อน ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” หมายถึงวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาในเสิร์จเอนจิ้น ในทีนี้จะใช้ Google เป็นหลักเพราะถือเป็นแหล่งค้นหายอดนิยมทั่วโลก แต่ความจริงยังมีเสิร์จเอนจิ้นจำนวนมากที่ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ อย่างเช่น Yahoo, Bing, Ask เป็นเสิร์จเอนจิ้นที่ใช้กันแพร่หลายในสหรัฐ Baidu ของจีน Yandex ของรัสเซียหรือ Nave ของเกาหลี เหตุผลที่อ้างอิงกูเกิ้ลเพราะในบ้านเราใช้กันเป็นตัวหลักในการค้นหา

หัวใจสำคัญของ คีย์เวิร์ด

หัวใจสำคัญคือการใช้คีย์เวิร์ด ซึ่งเป็นคำค้นหาของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ในกรณีที่ร้านเราขายคอมพิวเตอร์ เมื่อมีคนค้นหาคำว่า “คอมพิวเตอร์” จะพบเว็บไซต์ของร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เต็มไปหมด เราจะต้องเพิ่มคีย์เวิร์ดให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น เช่น “คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ” “คอมพิวเตอร์ มือสอง” “คอมพิวเตอร์ ราคาถูก” จะทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับสูงตรงกับคำค้นหาของลูกค้า คำคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะเข้าไปอยู่ในคอนเทนต์หรือบทความที่เราเขียนลงในเว็บไซต์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทำให้รู้สึกว่าน่าอ่านและเรียกคนเข้ามาติดตามอย่างต่อเนื่อง สรุปคร่าวๆ ว่า SEO เป็นช่องทางเรียกลูกค้าเข้าร้านแบบสร้างกระแส โดยหากอยากให้ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจ ตัวสินค้าเองจะต้องมีคุณภาพดีจึงจะจูงใจให้กลับเข้ามาซ้ำอีก

SEO มากกว่าที่คุณคิด

มาถึง SEM มาจากคำว่า “Search Engine Marketing” เป็นการจ่ายค่าโฆษณาโดยคำนวณจากจำนวนคนที่คลิกเข้ามาในเว็บไซต์ โดยค่าโฆษณาขึ้นอยู่กับ คีย์เวิร์ด ถ้าหากเป็นคำที่ใช้กันทั่วไปอย่าง “คอมพิวเตอร์” ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าคำว่า “คอมพิวเตอร์ มือสอง” เพราะการแสดงผลจากจำกัดวงแคบเข้า ทำให้ได้ลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด การทำ SEM มีค่าใช้จ่ายเป็นรายคลิก ส่วนการทำ SEO ถ้าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่จ้างทีมงานเข้ามาทำการตลาดเพื่อเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ เปรียบเทียบเรื่องที่ต้องจ่ายเงินทั้งคู่แล้ว การทำ SEM จะคุ้มค่ากว่าเพราะมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย หรือถ้าเป็นไปได้ ทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป จะช่วยเพิ่มทั้งยอดผู้ใช้เว็บไซต์และโอกาสในการขายสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น

บอกต่อ ! เทคนิค SEO เพื่อเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น

การทำ SEO หรือการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการค้นหาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เว็บไซต์ได้รับความสนใจน์มากขึ้น SEO ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท เทคนิค SEO มีความสำคัญมากในการส่งเสริมเว็บไซต์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตามการทำทุกอย่างด้วยตัวเองอาจเป็นงานที่ยากสำหรับคุณ แต่ในบทความนี้จะลงรายการไปที่เทคนิค SEO ที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นประโยชน์กับธุรกิจออนไลน์หรือเว็บไซต์ของคุณในการเพิ่มการเข้าชมได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

การใช้เทคนิค SEO ที่ตรงไปตรงมา

เทคนิค SEO ผิดจรรยาบรรณ คือ สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีประสิทธิภาพมากในการนำผู้ใช้มายังเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเทคนิคที่มีความไม่ยั่งยืน เพราะเทคนิค SEO ผิดจรรยาบรรณ เช่น เนื้อหาของเว็บไซต์ที่มีการซ่อน หรือการเชื่อมโยงการเปลี่ยนเส้นทาง การออกแบบและการใช้หน้าเว็บปลอมเพื่อดึงดูดการเข้าชมเว็บ เป็นต้น เป็นเทคนิคที่ถูกเรียกว่าผิดจรรยาบรรณ SEO หรือ Blckhat ซึ่งอยู่นอกข้อกำหนดในการให้บริการ ของเครื่องมือค้นหาที่สำคัญต่างๆเช่น Google, Yahoo, MSN และ Bing และจะนำปัญหาในระยะยาวจากการถูกลงโทษในอนาคต

การสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ

การเขียนบทความที่ไม่เหมือนใครและให้ข้อมูลที่ดีแก่ผู้ชมเป็นหนึ่งใน เทคนิค SEO แบบออร์แกนิค ที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายและได้รับการจัดอันดับที่ดีในเครื่องมือค้นหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและดียิ่งขึ้นคุณสามารถลองสร้างบทความที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพและพัฒนาเรื่องสถิติ SEO จะช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้ได้รับความสนใจจากคนดูมากขึ้น

การจัดเว็บไซต์อย่างสมเหตุสมผล

เว็บไซต์ที่มีการจัดระเบียบเป็นอย่างดีสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้เข้าชมและทำให้พวกเขากลับมาได้ในอนาคต เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการจัดระเบียบอย่างดี สามารถเพิ่มแถบค้นหาหรือเมนูอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้ผู้ชมพบข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายที่สุด การเพิ่มเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ก็เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดการเข้าชมเว็บ แต่ให้ควรให้แน่ใจว่าใช้ชื่อเรื่องที่สื่อความหมายที่ดึงดูดสำหรับบทความของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างแผนผังเว็บไซต์ XML ของเว็บไซต์เพื่อให้สไปเดอร์ของเครื่องมือค้นหาสามารถนำเข้าถึงทุกส่วนของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

ใช้คำหลักที่ดีที่สุด

มีเครื่องมือออนไลน์ต่างๆเช่น Google AdWords ที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกชุดคำหลักที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณ ตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ธุรกิจของคุณประกอบด้วยหมวดหมู่ต่างๆตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกอย่างน้อย 5 คำหลักหลักที่เกี่ยวข้องและใช้คำรองด้วยด้วย นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณด้วยการเพิ่มคำหลักที่เหมาะสมลงในเมตาแท็ก ภาพ คำอธิบายเนื้อหา ด้วยวิธีนี้การใช้คำหลักที่แข็งแกร่งและคำหลักที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถมีโอกาสจัดอันดับได้ง่ายขึ้นในเครื่องมือค้นหาต่างๆ

นี่คือเทคนิค SEO แบบง่ายๆและมีผลดีซึ่งช่วยพัฒนากลยุทธ์การปรับปรุงเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำอันดับใน Google หรือเครื่องมือค้นหาตัวอื่นๆได้

หลักเกณฑ์ของ Google ที่ใช้ในการพิจารณาเว็บไซต์

จะทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ทั้งที ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จได้จริง คุณจะต้องรู้ทันหลักเกณฑ์การพิจารณาของ google ทั้งหมดเสียก่อน เนื่องจากการรู้เท่าทัน google จะช่วยทำให้คุณสามารถเลือกใช้วิธีการ พร้อมทั้งเทคนิคต่าง ๆ รวมไปถึงการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักอย่างที่กูเกิลชื่นชอบได้อย่างถูกต้องและไม่พลาด อย่างน้อยก็ทำให้คุณไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลา เพื่อที่จะกลับมาพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองอีกครั้งหลังจากที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของ google โดยตรงนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของ google ที่ถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาเว็บไซต์โดยตรง หลักเกณฑ์ที่ถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาเว็บไซต์ของ google การจัดอันดับเว็บไซต์ของ google มักจะมีหลักเกณฑ์บางอย่างโดยที่พวกเราอาจจะยังคงไม่รู้ ซึ่งหลักเกณฑ์ส่วนใหญ่มักจะมีความสอดคล้องกันอยู่เสมอ หากคุณสามารถปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้ตรงกับหลักเกณฑ์ทุกข้อของกูเกิลได้ คุณก็จะมีสิทธิ์ก้าวขึ้นสู่อันดับต้น ๆ และขึ้นไปติดหน้าแรกของกูเกิลได้อย่างง่าย ๆ เลยทีเดียว

Usability – ความเป็น usability นั้น สามารถอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่า คุณจะต้องพัฒนาและทำเว็บไซต์ของคุณให้กลายเป็นเว็บไซต์ที่สามารถอ่านได้ง่าย เข้าใจง่าย ตลอดจนกระทั่งเป็นเว็บไซต์ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกสบาย หากเป็นเช่นนี้เว็บไซต์ของคุณจะขึ้นอันดับได้อย่างแน่นอน

Relevance – ความเป็น relevance นั้น ถือได้ว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ค้นหาส่วนใหญ่ ต้องการที่จะค้นหาอย่างมากที่สุด และจะต้องมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนกระทั่งสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ร่วมด้วย สำหรับหลักเกณฑ์ในข้อนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานที่เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะต้องมีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว

Authority – ความเป็น authority นั้น หมายถึงเว็บไซต์ของคุณจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มองแล้วเกิดความสะดุดตา น่าสนใจและน่าค้นหา ซึ่งผู้ที่จะท่องในเว็บไซต์ของคุณส่วนใหญ่ พวกเขาจะต้องรู้สึกไว้วางใจและเชื่อใจในเว็บไซต์ของคุณ ว่าไม่ใช่เว็บไซต์ในลักษณะซ่องสุมไวรัสเอาไว้นั่นเอง

การที่คุณได้รู้หลักเกณฑ์การพิจารณาเว็บไซต์ของ google ในส่วนนี้จะช่วยทำให้คุณได้รู้จักและเข้าใจได้ว่า จะทำการแก้ไขปัญหาในการทำ SEO ได้อย่างไร ซึ่งถ้าหากคุณเข้าใจหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้มากยิ่งขึ้นแล้ว การปรับแต่งและการพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นที่โดนใจของ google เพื่อที่จะผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปติดหน้าแรกของ google ก็นับได้ว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป แถมการทำ SEO ในแต่ละครั้งของคุณต่อจากนี้ ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย

ก่อนซื้อโปรแกรม SEO ต้องดูให้ดีก่อน

ใครใครก็อยากมีเว็บไซต์ของตัวเองหรือแอพพลิเคชั่นของตัวเองให้ติดอยู่อันดับหนึ่งของผลการค้นหาในโหมดเป้าหมายที่เราต้องการ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้เห็นข้อมูลเรามากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดมันจะนำมาซึ่งผลกำไรเข้าสู่เรานั่นเอง

มันไม่ได้ง่ายเสมอไป เพราะหากง่ายทุกคนคงแย่งกันทำกันไปหมดแล้ว ของอย่างนี้จะต้องรู้จักฝึกฝนประสบการณ์และทางออกที่ดีในสมัยนี้ก็คือการใช้โปรแกรมเอสอีโอเข้ามาช่วยในการคิดวิเคราะห์ในบางปัญหา เพื่อลดหย่อนเวลาในการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการ SPY ข้อมูล หากเราจะมานั่งสปายข้อมูลคู่แข่งในทุกเว็บไซต์ด้วยมือ คงจะขี้แตกเยี่ยวแตกกันไม่ใช่น้อย

สู้เราเอาเงินไปเสียให้กับเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์คู่แข่งอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในทางกลับกันโปรแกรม SEO นั้นส่วนมากจะคิดเป็นค่าบริการรายเดือนและมีราคาค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร เราจะต้องคิดก่อนว่าเรามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการจัดซื้อเครื่องมือ SEO ตัวนั้นมาช่วยในการทำงาน ถ้ามีความจำเป็นอย่างยิ่งขาดไม่ได้เลย ใช้แล้วลดเวลาทำงานไปได้วันละสองถึง 3 ชั่วโมงต่อให้ราคา 10,000 ต่อเดือนถ้ามันยังเป็นกระแสรายได้เชิงบวกแนะนำให้ซื้อ

คำนึงถึงความจำเป็นก่อนซื้อ

ในทางกลับกัน หากซื้อมาวิเคราะห์เพียงเว็บเดียวหรือสองเว็บก็อย่าซื้อมาเลย เพราะเค้าไม่ได้ขายตามจำนวนการใช้งาน แต่เค้าขายเป็นรายเดือนหรือรายปีเป็นส่วนมาก ดังนั้น ก่อนซื้อต้องคิดเสียก่อนไม่เช่นนั้นเงินที่เราจ่ายไปมันก็คือต้นทุนในการทำ SEO ของเราเช่นเดียวกัน จ้างอย่างฉลาด ซื้อโปรแกรมอย่างจำเป็น เราจะมีความมั่นคงในอาชีพการรับทำอันดับเว็บไซต์ได้อย่างยั่งยืน

ยากก็ยาก ง่ายก็ง่าย นี่แหละ “Search Engine Optimization”

มีหลายคนที่สนใจด้าน SEO แต่กลัวเพราะคิดว่ามันยาก และจิตตกเวลาวิเคราะห์โน่นนี่แล้วผลที่ได้มันไม่ดีเท่าที่อยากให้เป็นหรือไปเข้ากลุ่มกับคนทำ SEO แล้วเขาคุยกันว่าใครทำแบบไหนได้ผลอย่างไรพอมาเทียบกับของตัวเองแล้วมันด้อยกว่าทำให้เกิดความเครียด แต่จริงๆคือ SEO จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย มันเป็นแบบนี้จริงๆ

หลายๆคนพยายามใช้ปลั๊กอินต่างๆ บางคนทำเว็บไซด์รองเป็นสิบๆสำหรับทำ BL และทำแบบคุณภาพด้วย บางคนก็หาแนวทางต่างประเทศมาปรับใช้ แต่อันดับก็ไม่ขึ้น เปลี่ยนธีมก็แล้ว ปรับโน่นนี่ก็แล้ว แต่บางคนทำๆทิ้งๆอันดับกลับดี๊ดี มันก็น่าแปลกใจ แต่มันก็เป็นเฉพาะบางครั้งบางเว็บไซด์เท่านั้น ปัจจัยด้านอันดับ SEO มีความหลากหลายยากที่จะเดาทางได้ บางคนแค่เลือกโดเมนดีๆ เลือกโฮสดีๆ มันก็ติดขึ้นมาดื้อๆโดยไม่รู้ตัวก็มี ดังนั้นการทำ SEO ที่น่าจะได้ผลคือการทำแบบธรรมชาติปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกของระบบ เราแค่ทำในสิ่งที่ควรทำกับเว็บไซด์ของเราเช่น ติดตั้งปลั๊กอินเสริมสำหรับการทำ SEO ตรวจคอนเทนต์ ตรวจส่วนต่างๆให้ได้เต็มเปอร์เซ็นต์ของคะแนน SEO โปรโมท และแลกลิงค์ ทำ BL และขยันอัพเดท ทำให้เว็บมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เน้นความสดใหม่ของคอนเทนต์ ทำไปเรื่อยๆ จัดคีย์เวิร์ดมาสับเปลี่ยนบ้างแต่ให้เน้นคำที่เราต้องการ สร้าง Tag ที่น่าจะเชื่อมโยงมายังเว็บไซด์เรา

การไปคอมเม้นท์โดยติดลายเซ็นเว็บเราในส่วนที่เราทำได้ในเว็บอื่นๆที่เราทำได้ มันก็จะช่วยให้เกิดการเข้ามาถึงเว็บไซด์เราได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้คนทำ SEO รู้กันดีและควรให้มันมาแบบธรรมชาติไม่จำเป็นต้องเครียดและอัดกับ SEO มากเพราะปัจจุบันจะว่ากันจริงๆการทำให้เว็บติดหน้าแรกนั้นบางคนไม่สนใจแล้ว เขาสนในใจการโปรโมทแบบเข้าถึงมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนค้าขาย ส่วนคนที่ทำเว็บไซด์สำหรับหารายได้ก็จะสนทางด้าน SEO แต่จะเน้นโปรโมทคู่กันไปด้วย เขาแค่คิดว่าทำแบบไหนให้คนมาเว็บเขาเยอะๆพอแล้วไม่จำเป็นต้องง้อการติดหน้าแรกเพราะปัจจุบันความสำคัญของโลกโซเชี่ยลมันเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องติดหน้าแรกแต่คนก็รู้จักได้ ดังนั้น SEO ก็เหมือนกันถ้ายึดกับอันดับหน้าแรกๆ จะเครียดไปเปล่าๆ ค่อยๆให้มันโตไปในทิศทางที่เราวางทำเว็บให้มีคุณภาพ ตามแนวทางของเราแล้วใช้การโปรโมท ใช้การแชร์ ให้คนเข้าถึงจะได้ประโยชน์ในส่วนอื่นๆมากกว่ายึดแต่อันดับ SEO เผลอๆ ทำเองก็ได้ไม่ต้องจ้างแค่อ่านข้อมูลแล้วทดลองทำตามรับรองว่า SEO จะกลายเป็นเรื่องง่ายแบบที่คุณคาดไม่ถึง