จุดที่ต้องทำ SEO ให้กับเว็บไซต์

เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งนั้น ต้องมีการทำ SEO ในหลายจุด เพื่อให้ระบบ algorithm ของ Google ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลแล้วพบว่ามีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพตรงกับการสืบค้นของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากกว่าเว็บไซต์อื่น เรามาดูกันว่ามีจุดใดบ้างที่คุณต้องให้ความสำคัญ

1.keyword seo
คีย์เวิร์ด SEO ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำเว็บไซต์ออนไลน์ จะปรากฏอยู่ในบทความ ทั้งส่วนคำนำ เนื้อเรื่อง สรุป ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะใช้คำนี้ พิมพ์ในช่องสืบค้นของ Google เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ หากได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก็อาจนำไปสู่การซื้อขายสินค้าบนเว็บไซต์คุณตามไปด้วย ไม่ว่าคุณจะจำหน่ายสินค้าประเภทใดก็ตาม การเลือก keyword SEO จึงต้องศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในคอร์สต่าง ๆ หรือผ่านช่อง YouTube ที่มีผู้สอนออนไลน์ไว้มากมาย

2.การทำส่วนหัวเรื่องหรือ title SEO
หัวเรื่องหรือหัวข้อเป็นจุดที่สร้างความดึงดูดใจให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด ส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะคลิกเข้ามาชมหรือเลื่อนผ่าน มีการวิจัยพบว่า หากหัวข้อเป็นเป็นคำที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีความกระชับ อ่านแล้วติดปาก น่าบอกต่อ หรือใช้เป็นประโยคคำถามที่ตรงกับความสนใจของคนส่วนใหญ่ ก็จะมีโอกาสถูกคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหาสาระมากกว่าหัวข้อที่ดูเข้าใจยากหรือมีตัวสะกดที่ผิดพลาด อันจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบทความนั้นทันที

3.รูปภาพประกอบในบทความ
การทำ SEO ให้กับรูปภาพก็เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญ คุณอาจสังเกตได้ว่าในช่อง Search ของ Google จะมีให้เลือกว่า ต้องการค้นหาข้อมูลจากรูปภาพหรือบทความใด ๆ บนฐานข้อมูลกูเกิ้ล ดังนั้น การเลือกคำที่เหมาะสมในการตั้งชื่อภาพ และใช้อธิบายรายละเอียดของภาพ จึงเป็นเรื่องที่ห้ามมองข้าม และระบบ algorithm ของ Google ก็ไม่สามารถแยกองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพได้ จึงควรใส่รายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ในภาพ ฯลฯ ลงไปในชื่อภาพและ ALT Text ด้วย เช่น “รองเท้ากีฬา ผู้หญิง ไซส์ 40 ลายสปอร์ต สีเทา-ชมพู” จะทำให้มีโอกาสถูกสืบค้นเจอเว็บไซต์ของคุณผ่านรูปภาพได้อีกช่องทางหนึ่ง

4.คำโปรย Meta Description
การทำ Meta Description หรือคำโปรย เป็นตัวดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน รองจากการตั้งชื่อหัวข้อหรือ title โดยกำหนดความยาวให้ไม่เกิน 100 ตัวอักษร จะกระชับดีที่สุด เพื่อให้ผู้ที่กำลังลังเลว่าจะคลิกเข้ามาชมหรือไม่ ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น การใส่ keyword SEO ลงไปใน Meta Description ควรแทรกอย่างเป็นธรรมชาติ ลำดับประโยคอย่างน่าสนใจ กระตุ้นให้อยากรู้อยากคลิกมาชมในเว็บไซต์ จะเป็นผลดีต่อคะแนน SEO ของเว็บไซต์นั้นด้วย

การทำเว็บไซต์ SEO มีหลายจุดที่ไม่ควรมองข้าม อย่างน้อย 4 จุดที่กล่าวไป คือ คีย์เวิร์ด ส่วนหัวเรื่อง คำโปรย และการตั้งชื่อภาพอย่างมีคุณภาพตามหลัก SEO ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาด เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งอื่นที่ขายสินค้าออนไลน์แบบเดียวกันได้มากขึ้น

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มทำ SEO ให้เว็บไซต์ออนไลน์

การทำ SEO ไม่ใช่เป็นเพียงเทรนด์การตลาด แต่เป็นสิ่งที่ควรทำให้แก่ทุกเว็บไซต์ เนื่องจากจะทำให้ถูกสืบค้นได้ง่าย จากการพิมพ์ keyword SEO ใน Search Engine อย่าง Yahoo และ Google จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าที่กว้างขวางขึ้นได้ในระยะยาว

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ต้องมีการพัฒนาเว็บไซต์ใน 2 ส่วน ดังนี้

1. On-Page SEO

ได้แก่ การผลิตบทความในเพจ ที่ต้องเลือก keyword SEO ที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วว่าตรงกับที่กลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ใช้ค้นหา ซึ่งปัจจุบันควรใช้ Niche Keyword ที่มีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น

เช่น ใช้คำว่า “รองเท้ากีฬา วิ่ง ผู้หญิง สีชมพู Nike รุ่น” จะทำให้มีโอกาสได้รับการคลิกเข้ามาชมและมียอดขายได้มากกว่า การใช้คำว่า “รองเท้าวิ่ง”

นอกจากนี้ ต้องมีการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ง่าย ทั้งบนโทรศัพท์มือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่สั่งสินค้าทางมือถือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

2. Off-Page SEO

คือ การเชื่อมโยงลิงก์กับเว็บไซต์ภายนอก เช่นการไปตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ และแนบ Link ไว้เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มในเว็บไซต์ทางธุรกิจของคุณ

เทคนิคนี้จะทำให้ได้ขยายแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ทางธุรกิจของคุณ จึงทำให้อันดับของ SEO ดีขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ระบบ Algorithm ของ Search Engine จะเป็นผู้ที่ประมวลผลการพัฒนาเว็บไซต์ทั้งหมด หากไม่เป็นตามหลักการของ SEO ก็จะถูกจัดอันดับให้ตกลงไปด้านล่าง เช่น เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็น spam ใส่ keyword ที่ไม่ตรงกับสินค้า ใช้การคัดลอกเนื้อหาและภาพซึ่งเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นอัพเดทข้อมูลและพัฒนาเว็บไซต์ SEO อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากคุณหยุดนิ่ง ก็ทำให้เว็บไซต์อื่นมีอันดับที่สูงกว่าได้ เรียกได้ว่าการทำ SEO ทำให้ผู้ที่มีความจริงจังในการพัฒนาเว็บไซต์ได้เปรียบคู่แข่งอย่างมาก

นับว่าเป็น ข้อดีที่สำคัญของการทำ SEO เพราะทำให้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ ย่อมมีโอกาสปรากฏสู่สายตาของลูกค้าผู้บริโภคเท่าเทียมกัน ไม่สามารถผูกขาดอันดับ SEO ได้ (นักธุรกิจออนไลน์หน้าใหม่ จึงคลายความกังวลได้ เพียงใช้เวลา 2-3 เดือนในการทำ SEO อย่างต่อเนื่อง ก็สามารถมีศักยภาพในการแข่งขันที่มากทัดเทียมกับเจ้าตลาดรายเก่า)

การทำ SEO จึงต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ ที่สำคัญ คือ ต้องมีการวัดผลการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจเมื่อทำ SEO เป็นระยะ จึงจะเกิดการพัฒนาเว็บไซต์อย่างเป็นระบบ และบรรลุเป้าหมายในการทำธุรกิจออนไลน์ได้อย่างงดงาม

พัฒนาเว็บไซต์ SEO อย่างสม่ำเสมอ