Tags “H” สำคัญมากนะบอกให้

โดยทั่วไปแล้วในหนังสือแต่ละเล่มที่มีบทความให้เราได้อ่านข้อมูลต่างๆนั้น ส่วนมากนอกจากจะมีหัวข้อเรื่อง ก็จะมีหัวข้อรองต่างๆปนอยู่ในบทความด้วย ยิ่งบทความยาวมากเท่าไหร่ จำนวนหัวข้อย่อยๆก็จะมีเยอะมากเท่านั้น มันเป็นการจัดลำดับความสำคัญของส่วนเนื้อหาให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจได้อย่างลงตัว หากว่าเนื้อหามีความยาวค่อนข้างเยอะ สมมุติว่ายาวเต็มหนึ่งหน้ากระดาษ A4 หากว่าไม่มีหัวข้อย่อยเลย มีแต่หัวข้อหลัก และในบทความนั้นมีเรื่องราวหลากหลายปนกันอยู่ในบทความเดียวกัน เชื่อได้ว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ก็อาจจะเกิดความสับสนแถมเวลาจะกลับมาอ่านย้ำอีกทีก็จะไล่ไม่ค่อยถูกนัก

หัวข้อย่อยๆจึงมีส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่า หากผู้อ่านต้องการจะกลับมาอ่านย้อนหลังในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหา ก็เพียงแค่จำหัวข้อย่อยของส่วนเนื้อหานั้นเอาไว้แล้วก็กลับมาอ่านซ้ำในจุดนั้น มันจะง่ายกว่าการที่จะต้องมาไล่สุ่มหาจุดที่เราต้องการอ่านซ้ำอีกครั้งจากตัวเนื้อหาโดยปราศจากหัวข้อย่อยๆนั่นเอง

บทความในเว็บไซต์ต้องมีหัวข้อด้วย

หัวข้อ

ในทางการทำเว็บไซต์นั้น หัวข้อย่อยๆเหล่านี้รวมไปถึงหัวข้อหลักก็มักจะถูกแทนที่ด้วย Tags H ซึ่งหากว่าบทความของเรานั้นไม่มี Tags H ปนอยู่เลย รับรองได้ว่าการทำ SEO จะทำยากมากกว่าเดิม ปัจจุบัน CMS WordPress ซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยม จะมีการใส่ H1 ให้กับหัวข้อหลักเป็นที่เรียบร้อย นอกจากบาง Theme อาจจะย่อยเป็น H2 แทน H1 นอกจากนี้ ในตัวบทความ เจ้าของเว็ปที่จะลงเนื้อหานั้นก็สามารถใส่แท็ก H2 H3 H4 เพื่อเป็นหัวข้อย่อยๆต่างๆที่อยู่ในบทความได้

การมีหัวข้อย่อยๆเหล่านี้จะช่วยให้การทำ SEO ในหน้าเว็บเพจนั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีตัวบ่งบอกเสิร์จเอนจิ้นว่าบทความของเรามีการแบ่งวรรคแบ่งส่วนกันอย่างชัดเจน ไม่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสน ค่าคะแนนสกอร์ SEO Onpage ก็จะดีตามไปด้วย นี่คือหลักการ OnPage จำไว้ว่า Tags H มีความสำคัญเกี่ยวกับการทำ SEO Onpage เป็นอย่างมาก แต่ละบทความควรจะมี Tags H อย่างน้อยหนึ่งอัน ถ้ากลัวว่าลืมใส่ ก็ใช้ WordPress มาเป็นตัวช่วยสร้างเว็บดูสิ