การสร้างบทความ SEO ที่ดี สำหรับปี 2019

การทำบทความ SEO ให้มีคุณภาพสำหรับการส่งเสริมธุรกิจและเพิ่มยอดขายเป็นสิ่งสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ในปัจจุบัน การเขียนบทความที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ปราศจากการคัดลอกมีผลต่อการจัดอันดับความนิยมในเว็บไซต์เพื่อการสืบค้น โดยระบบอัลกอริทึ่มของ search engine จะเป็นผู้ประมวลผลนี้

ในปี 2019 บทความ SEO ที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง จึงจะส่งเสริมธุรกิจออนไลน์ท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่สูงเช่นในปัจจุบัน เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย

การสร้างบทความ SEO ที่ดี

การเชื่อมโยงบทนำเข้าสู่เนื้อหาใหญ่

บทความที่ชวนอ่านต้องมีการเชื่อมโยงประเด็นจากสิ่งใกล้ตัวให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญ เป็นการเปิดใจ หรือเปิดโลกทัศน์ของผู้อ่านให้พร้อมสูงเนื้อหาสำคัญต่อไป ในขั้นตอนของบทนำก็ต้องมีการใส่คีย์เวิร์ด SEO ด้วยเพื่อให้สามารถถูกตรวจจับได้จากระบบการสืบค้น

การใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในบทความ SEO

ระบบการสืบค้นจะให้อันดับที่ดีแก่บทความที่มีคีย์เวิร์ด SEO ที่สอดคล้องและกลมกลืนกับเนื้อหา ทั้งยังต้องมีการกระจายคีย์เวิร์ดในตำแหน่งต่าง ๆ สม่ำเสมอ ไม่ควรใช้คำเดิมซ้ำบ่อย ๆ จนเกินไป เพราะจะทำให้ระบบ search engine ตีความว่าเป็นบทความขยะ หรือ spam

ก่อนจบบทความ ต้องมีวลีน่าสนใจทิ้งท้ายและชวนให้ติดตามต่อ

แม้ในส่วนของเนื้อหาจะมีความน่าดึงดูดใจและอ่านเพลินแล้ว แต่การเพิ่มความประทับใจแบบสวยงามด้วยการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นว่าเหตุใดจึงควรติดตามการเคลื่อนไหวในวงการสินค้าและบริการนั้น เช่น วงการมือถือและสินค้าไอที เครื่องเล่นเกมส์รุ่นใหม่ ๆ ฯลฯ จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เพิ่มความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าซึ่งจะทำให้มีโอกาสสูงที่ลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ และเป็นผู้สนับสนุนซื้อสินค้าและบริการในระยะยาว

การมีภาพที่น่าสนใจจะช่วยให้บทความน่าอ่าน

ต้องยอมรับว่ารูปภาพและคลิป VDO เป็นสิ่งที่ชวนให้ผู้อ่านติดตามและจดจำเว็บไซต์ผู้เป็นแหล่งข้อมูลนั้นดีขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญในธุรกิจออนไลน์นิยมใช้เวลาครั้งละสั้น ๆ แต่มีความถี่สูงในการชมข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ปรากฏจากการใส่คีย์เวิร์ดสืบค้น ใน yahoo google Bing

ดังนั้นบทความ SEO ในปี 2019 จึงควรมีภาพและคลิปประกอบที่สัมพันธ์กันและส่งเสริมความเข้าใจในเนื้อหาบทความยิ่งขึ้น เช่น ภาพการทำงานของปุ่มคีย์บอร์ดชนิดต่าง ๆ สำหรับให้ลูกค้าเปรียบเทียบคุณสมบัติที่แตกต่างของคีย์บอร์ดแต่ละรุ่น สำหรับเว็บไซต์ขายคีย์บอร์ด ภาพกลไกการออกฤทธิ์ของยาและภาวะโรคสำหรับเว็บไซต์เกี่ยวกับสินค้าสุขภาพ เป็นต้น

การสร้างบทความ SEO สำหรับปี 2019

จะเห็นได้ว่า การทำบทความ SEO ที่ดีมีประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มรูปภาพและคลิปที่เหมาะสมเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ตัวงานเขียนให้มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์หรือ unique ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ในปี 2019 ประสงค์จะได้เห็นจากเว็บไซต์ออนไลน์นั่นเอง

4 เรื่องต้องรู้ของ SEO และ SEM

ปัจจุบันมีหลายบริษัทรับจ้างทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจขายสินค้าและบริการทางหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ในการเลือกระหว่าง SEO และ SEM และนี่คือ 4 เรื่องที่ควรทราบเพื่อการวิเคราะห์เลือกการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

เรื่องต้องรู้ของ SEO และ SEM

1. SEO ต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์จากยอดขายหรืออันดับสืบค้นที่สูงขึ้นเป็น top five หรือ top ten เนื่องจากระบบอัลกอริทึ่มของ search engine อย่างกูเกิ้ล ยาฮู บิง ต้องประมวลผลจากดาต้าที่สะสมในฐานข้อมูล แตกต่างจาก SEM ที่สามารถขึ้นอันดับสูง 1-3 ได้ทันทีหลังการจ้างทำโฆษณา

2. การทำ SEO ไม่สามารถการันตีได้ว่าผลลัพธ์ด้านรายได้จะเห็นผลคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของการลงทุนจ้างบริษัทเอกชนทำ SEO เนื่องจากต้องใช้เวลาและต้องแข่งกับเจ้าของสินค้าและผลิตภัณฑ์คู่แข่งอื่นที่ทำทั้ง SEO และ SEM ส่วนการจ้างทำ SEM จะสามารถคาดได้ง่ายกว่าว่าลงทุนจ้างทำ SEM วันนี้กี่บาท จะมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กี่คนต่อชั่วโมงและจะมีการตอบกลับเชิงบวกหรือเกิดการซื้อสินค้าและบริการเป็นยอดรายได้และกำไรคิดเป็นกี่เท่าจากการลงทุนจ้างทำ SEM

3. คนส่วนใหญ่ชอบดูการโฆษณาที่มีเนื้อหาใกล้ชิดหรือสอดคล้องกับวิถีชีวิตของตัวเอง ซึ่งเป็นแนวทางในการทำ SEM ให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการจ้างบริษัทเอกชนที่มีประสบการณ์ด้านงานโฆษณาและมีไอเดียแปลกใหม่ในการทำ SEM ก็มักจะได้ผลสำเร็จที่ดี เป็นที่เตะตากลุ่มคนทั่วไป รวมถึงกลุ่มคนเป้าหมายให้เข้ามาซื้อสินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนเป็นเม็ดเงินด้วย ขณะที่การทำ SEO สามารถเรียนรู้และทำได้ด้วยตัวเองไปเรื่อย ๆ หรือหากต้องการกูรูมืออาชีพก็สามารถจ้างทำ SEO ในระยะแรก แล้วศึกษาด้วยตัวเองควบคู่กันไป เพื่อในระยะยาวเจ้าของเว็บไซต์จะได้ดูแลด้วยตัวเองและปรับแต่งส่วนต่าง ๆ แก้จุดอ่อนเสริมจุดแข็งเองได้

4. การทำ SEO และ SEM ต่างต้องมีคีย์เวิร์ดที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาข้อมูลผ่าน search engine แต่สิ่งที่ต่างกันคือ SEM มักมีการวิจัยตลาดที่เข้มข้นกว่าเพื่อจับประเด็นมาทำโฆษณาที่ตรงใจ แต่หากการวิจัยคีย์เวิร์ดพบว่าคำสืบค้นมีการเปลี่ยนความนิยมไปจากเดิม ตามเทรนด์หรือกระแสแฟชั่น งาน SEM ก็มีความยืดหยุ่นและรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนคีย์เวิร์ดในการโฆษณาสูงกว่า SEO และจะเห็นผลลัพธ์ที่ตามมาจากการเปลี่ยนคีย์เวิร์ดเร็วกว่า SEO

ต้องรู้ของ SEO และ SEM

หวังว่าทั้ง 4 ข้อข้างต้นที่นำเสนอไป จะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และเลือกจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์ในการทำ SEO และ SEM เพื่อให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างงดงามในโลกออนไลน์ต่อไป

ทำไมจึงกล่าวว่า SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์

ทำไมจึงกล่าวว่า SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์

SEO หรือ search engine optimization เป็นสิ่งที่เปรียบได้กับหัวใจของการทำเว็บไซต์ในวงการธุรกิจออนไลน์เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการค้นหาด้วย search engine ชื่อดังต่าง ๆ ไม่ว่า google yahoo ที่คนทั่วโลกนิยมใช้ในการสืบค้นข้อมูลทุกประเภทในโลกอินเตอร์เน็ต การทำ SEO จึงต้องใส่ใจทั้งส่วนเนื้อหา หรือ content ในเว็บไซต์และส่วนงานโครงสร้าง หรือ site structure รวมถึงการเชื่อมต่อหรือ backlink อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่ากับการลงทุนด้านเงินและเวลาในการทำ SEO

สำหรับข้อดีหรือคุณประโยชน์ของการทำ SEO ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้คือ จะทำให้การนำเสนอเว็บไซต์ของสินค้าและบริการมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเป้าหมายที่กำลังต้องการซื้อ หรือมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาในขณะนั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด เนื่องจากการทำ SEO จะมีการระบุคีย์เวิร์ดที่ตรงกับลักษณะสินค้าและบริการมากที่สุด จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการฝากประกาศหรือโฆษณาที่มีความจำเพาะต่อกลุ่มเป้าหมายน้อยกว่า ซึ่งต้องยอมรับว่าการแข่งขันทางธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจอย่างปัจจุบัน จำเป็นต้องช่วงชิงจังหวะ หรือภาษาง่าย ๆ คือ ใครที่เข้าถึงลูกค้าได้ก่อนย่อมได้เปรียบ การทำ SEO จึงช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้

SEO หัวใจของธุรกิจออนไลน์

สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำ SEO โดยทั่วไปจะอยู่ที่หลักพันบาทต่อเดือน โดยควรพิจารณาเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยการขอดูผลงานเก่า ๆ หรือรายงานความพึงพอใจที่ผ่านมาของลูกค้าบริษัทก่อนที่จะทำสัญญาว่าจ้างทำ SEO เนื่องจากงานการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบการสืบค้นสากล ที่มีประสิทธิภาพในการขึ้นเป็นอันดับท็อปไฟฟ์หรือท็อปเท็น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ จำเป็นต้องมีทีมที่เชี่ยวชาญด้าน SEO ทั้งส่วน on-page และ off-page ในการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบวิเคราะห์ของ search engine ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคอร์สรับทำ SEO มักจะมีระยะเวลาในสัญญาระบุไว้เป็นช่วงยาวหลายเดือนหรือเป็นสัญญาปีต่อปี เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด

ระยะเวลารอคอยให้เห็นผลลัพธ์จากการทำ SEO ยังต้องขึ้นกับประเภทธุรกิจด้วย กล่าวคือ หากเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงในภาคเอกชน เช่น การขายทัวร์ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ การขายคอร์สดูแลความงามของคลีนิคผิวพรรณ ฯลฯ มักจะมีการจ้างงานบริษัททำ SEO ที่มีความเป็นมืออาชีพอันดับต้น ๆ ของวงการสื่อออนไลน์ จึงทำให้การแข่งขันด้วยการสร้าง content ใหม่ ๆ และการอัพเดตดาต้าในเว็บไซต์ของบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการนำเข้าสู่ระบบ algorithm หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเทคนิคของ search engine นั่นเอง

SEO จึงเปรียบได้กับอวัยวะสำคัญ อย่างหัวใจ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายและกำไรของธุรกิจ และยังช่วยให้การกำหนดทิศทางพัฒนาหรือแก้ไขจุดบกพร่องของธุรกิจมีความเด่นชัดยิ่งขึ้นด้วย

SEO เป็นหัวใจของธุรกิจออนไลน์