หัวข้อของ บทความ SEO มีความสำคัญและเป็นหน้าด่านแรกในการเรียกคนให้คลิกเข้าไปดูเนื้อหาของคุณเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นการตั้งหัวข้อจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่แพ้กลยุทธ์การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้องและเหมาะสม เราจึงเอาเทคนิคการตั้งหัวข้อมาฝากให้คุณเรียกคนเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณให้เยอะขึ้นดังต่อไปนี้
เทคนิคการตั้งหัวข้อ SEO
ใส่คีย์เวิร์ด : แน่นอนว่าหัวข้อของคุณจะต้องมีคีย์เวิร์ดที่คนใช้ค้นหาด้วย ยิ่งเป็นคีย์เวิร์ดที่ตรงกับการค้นหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแรงจูงใจให้คนอยากคลิกเข้าไปอ่านในเนื้อหาของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น
อ่านปุ๊บเข้าใจปั๊บ : ทางที่ดีที่สุดคือการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและไม่ควรเป็นหัวข้อที่ยาวจนเกินไป เพราะเมื่อไหร่ที่หัวข้อยาวจะทำให้คนเลื่อนผ่านเนื้อหาของคุณไปโดยทันทีแบบไม่ต้องเปิดอ่าน ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายยิ่งกว่าการอธิบายหัวข้อด้วยการใช้คำหลายคำเสียอีก แต่ถ้าคุณทำได้ก็จะทำให้มียอดคลิกเพิ่มได้
เขียนให้ได้ Call to action : หัวข้อแบบ call to action จะช่วยให้คนคลิกเข้าไปในเนื้อหาของคุณเหมือนเป็นการสร้างแรงจูงใจอย่างหนึ่ง ซึ่งหัวข้อนี้เหมาะกับการทำ sales page เช่น การใช้คำว่า คลิกด่วน! เฉพาะคุณเท่านั้น! อย่ารอช้า! รีบเปิดก่อนหมดสิทธิ์! เป็นต้น
ตั้งชื่อหัวข้อด้วยคำถาม : ลองคิดดูสิว่าเวลาคุณค้นหาคำตอบอะไรก็แล้วแต่ คุณจะเริ่มต้นด้วยคำถามด้วยเช่นกัน เทคนิคนี้จะทำให้คนที่เลื่อนมาเจอหัวข้อของคุณรู้สึกอยากค้นหาคำตอบ ซึ่งความรู้สึกอยากค้นหานี้จะนำไปสู่การคลิกเข้าไปดูเนื้อหาด้านในนั่นเอง เช่น การใช้คำว่า ทำไม… อะไรคือ…
กระตุ้นอารมณ์ให้คลิก : ความตื่นเต้นเร้าใจและปลุกใจเป็นสิ่งที่สร้างความอยากรู้อยากเห็นของคุณได้ ซึ่งเมื่อไหร่ที่คุณกระตุ้นอารมณ์ความอยากรู้ของคนได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เนื้อหาของคุณถูกเปิดอ่านได้แบบง่าย ๆ เช่น การใช้คำว่า ด่วน! พิเศษ! เท่านั้น! เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหัวข้อ
ใช้ตัวเลขช่วย : การมีตัวหนังสืออย่างเดียวบนหัวข้อนั้นทำให้คนต้องใช้เวลาอ่านหัวข้ออย่างน้อย 3 วินาทีขึ้นไป แต่การใช้ตัวเลขเข้ามาคั่นตัวหนังสือจะช่วยให้หัวข้อของคุณดูสะดุดตามากขึ้นและทำให้คนอ่านรู้สึกอ่านง่ายมากกว่าการใช้ตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว
จะเห็นได้ว่าการตั้งหัวข้อนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ศาสตร์ของการใช้คีย์เวิร์ดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นศิลป์ที่ต้องจูงใจให้คนคลิกเข้าไปอ่านอีกด้วย แล้วอย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ แบบนี้ไปลองใช้กับการทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณต่อไป