“Keyword” หัวใจหลักในการทำเงินจากเว็บไซต์

เราจะรู้จักการคัดเลือก Keyword ที่ดีก็ต่อเมื่อ เรามีความเข้าใจในเรื่องของ SEO ดังนั้น ผู้ที่เพึ่งริเริ่มการหัดทำเว็บไซต์ให้มีอันดับในหน้าแรกของผลการค้นหา จึงควรศึกษาเรื่องของพื้นฐาน SEO ทั้งหมดโดยรวมอย่างเข้าใจ หากเราเข้าใจแล้วเราจึงจะมาเลือกคีย์เวิร์ดและเริ่มทำไปด้วยกัน สาเหตุที่ต้องทำความเข้าใจกับ SEO ก่อนนั้น เราจะได้รู้จักการวิเคราะห์ว่าในคีย์เวิร์ดไหนมีการแข่งขันสูง ในคีย์ไหนที่มีการแข่งขันต่ำ เราสามารถเอาชนะในเรื่องของออนเพจและออฟเพจคู่แข่งไปได้หรือไม่

ปัจจุบัน เราสามารถดูสถิติปริมาณค้นหาได้จาก Google Adword เป็นหลัก แต่การจะเลือกเฉพาะคำค้นหาที่มีปริมาณค้นหาสูงอย่างเดียวมันคงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ยิ่งปริมาณค้นหาสูงส่วนมากการแข่งขันก็จะสูง และหากเราไม่มีทุน ไม่มีแรง ไม่มีกำลังมากพอที่จะมานั่งแข่งขันกับเว็บใหญ่ระดับนั้น การที่เราไปนั่งเล่นคีย์แข่งขันสูงคงดูจะไม่คุ้มทุนสักเท่าไหร่ เราอาจจะต้องเลือก Nich Keyword ที่สามารถทำเงินได้แต่การแข่งขันต่ำแทน

คีย์เวิร์ดรอง แหล่งทำเงินของนักทำ SEO

seo

นิชคีย์เหล่านี้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก และเราสามารถทำได้หลายคีย์ภายในเว็บเดียวกัน นั่นหมายความว่าหนึ่งเว็บไซต์ ยิ่งทำนิชคีย์เยอะมากเท่าไหร่ โอกาสทำเงินของเราก็จะมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปเหนื่อยเกินกำลังเหมือนกับการแข่งขันในคำค้นหาที่มีการแข่งขันสูงเลยนั่นเอง แต่ในทางกลับกัน เพชรเม็ดงามยังมีอยู่เสมอ บางครั้งเมื่อเราฝึกการหา Keyword และการวิเคราะห์คู่แข่งอย่างชำนาญแล้ว เราอาจจะเจอคำที่มีปริมาณค้นหาเยอะแต่การแข่งขันต่ำมากก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน นี่เป็นเรื่องจริง

ทุกวันนี้คนที่มีรายได้หลาย 1,000,000 ต่อเดือนจากการทำ SEO เค้าเหล่านี้มักจะสามารถทำอันดับเว็บไซต์ของตัวเองให้ติดอยู่ในอันดับแรกของผลการค้นหา ในปริมาณที่มีคู่แข่งต่ำแต่ แต่มีปริมาณค้นหาต่อเดือนสูง การทำแบบนี้เราไม่ต้องใช้คนเยอะ ไม่ต้องใช้กำลังเยอะ ดีไม่ดีทำคนเดียวก็ยังทำไหว แถมทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ต่างจากการแข่งขันในคำมีคู่แข่งสูง ค้นหาสูง มันต้องใช้ทั้งทุนและกำลังเข้ามาช่วย ทำให้ท้ายที่สุดก็ต้องวัดกันว่าจะขาดทุนหรือกำไร นี่คือหัวใจในการนำเว็บไซต์ โอกาสทำเงินได้ย่อมมีสูงขึ้น

Tags “H” สำคัญมากนะบอกให้

โดยทั่วไปแล้วในหนังสือแต่ละเล่มที่มีบทความให้เราได้อ่านข้อมูลต่างๆนั้น ส่วนมากนอกจากจะมีหัวข้อเรื่อง ก็จะมีหัวข้อรองต่างๆปนอยู่ในบทความด้วย ยิ่งบทความยาวมากเท่าไหร่ จำนวนหัวข้อย่อยๆก็จะมีเยอะมากเท่านั้น มันเป็นการจัดลำดับความสำคัญของส่วนเนื้อหาให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจได้อย่างลงตัว หากว่าเนื้อหามีความยาวค่อนข้างเยอะ สมมุติว่ายาวเต็มหนึ่งหน้ากระดาษ A4 หากว่าไม่มีหัวข้อย่อยเลย มีแต่หัวข้อหลัก และในบทความนั้นมีเรื่องราวหลากหลายปนกันอยู่ในบทความเดียวกัน เชื่อได้ว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ก็อาจจะเกิดความสับสนแถมเวลาจะกลับมาอ่านย้ำอีกทีก็จะไล่ไม่ค่อยถูกนัก

หัวข้อย่อยๆจึงมีส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่า หากผู้อ่านต้องการจะกลับมาอ่านย้อนหลังในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหา ก็เพียงแค่จำหัวข้อย่อยของส่วนเนื้อหานั้นเอาไว้แล้วก็กลับมาอ่านซ้ำในจุดนั้น มันจะง่ายกว่าการที่จะต้องมาไล่สุ่มหาจุดที่เราต้องการอ่านซ้ำอีกครั้งจากตัวเนื้อหาโดยปราศจากหัวข้อย่อยๆนั่นเอง

บทความในเว็บไซต์ต้องมีหัวข้อด้วย

หัวข้อ

ในทางการทำเว็บไซต์นั้น หัวข้อย่อยๆเหล่านี้รวมไปถึงหัวข้อหลักก็มักจะถูกแทนที่ด้วย Tags H ซึ่งหากว่าบทความของเรานั้นไม่มี Tags H ปนอยู่เลย รับรองได้ว่าการทำ SEO จะทำยากมากกว่าเดิม ปัจจุบัน CMS WordPress ซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยม จะมีการใส่ H1 ให้กับหัวข้อหลักเป็นที่เรียบร้อย นอกจากบาง Theme อาจจะย่อยเป็น H2 แทน H1 นอกจากนี้ ในตัวบทความ เจ้าของเว็ปที่จะลงเนื้อหานั้นก็สามารถใส่แท็ก H2 H3 H4 เพื่อเป็นหัวข้อย่อยๆต่างๆที่อยู่ในบทความได้

การมีหัวข้อย่อยๆเหล่านี้จะช่วยให้การทำ SEO ในหน้าเว็บเพจนั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีตัวบ่งบอกเสิร์จเอนจิ้นว่าบทความของเรามีการแบ่งวรรคแบ่งส่วนกันอย่างชัดเจน ไม่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสน ค่าคะแนนสกอร์ SEO Onpage ก็จะดีตามไปด้วย นี่คือหลักการ OnPage จำไว้ว่า Tags H มีความสำคัญเกี่ยวกับการทำ SEO Onpage เป็นอย่างมาก แต่ละบทความควรจะมี Tags H อย่างน้อยหนึ่งอัน ถ้ากลัวว่าลืมใส่ ก็ใช้ WordPress มาเป็นตัวช่วยสร้างเว็บดูสิ

หลีกเลี่ยงการทำ SEO สร้างลิงค์แบบผิดวิธี

โลกธุรกิจมีการแข่งขันสูง คู่แข่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บรรดาผู้ประกอบการต้องใช้ทุกวิธีเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากที่สุด เพราะยิ่งขยายฐานลูกค้ากว้างมากเท่าไร โอกาสปิดยอดขายยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากลูกค้าเห็นลิงค์เว็บของเราบ่อย เกิดความสนใจและกระตุ้นความต้องการซื้อในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังขยายไปสู่ลูกค้าใหม่ การทำ SEO ด้วยวิธีการสร้างลิงค์เชื่อมโยงเว็บอื่นๆ ให้ลิงค์สู่เว็บของเรา ส่งผลดีในข้อที่มีผู้คนหลั่งไหลจากเว็บไซต์ต่างๆ แวะเวียนเข้ามาในเว็บของเรามากขึ้น อย่างไรก็ดี มักพบข้อผิดพลาดในการสร้างลิงค์แบบผิดวิธี มีข้อแนะนำดังนี้

การสร้างลิงค์นับเป็นหนึ่งในเคล็ดลับการเพิ่มอันดับการค้นหาใน Google ซึ่งจะต้องทำด้วยความรู้ความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลเสียหาย จำนวนลิงก์ที่มากเกินไปอาจจะเหมือนกับว่าเว็บเรากำลังเป็นสแปมสร้างความรำคาญให้ลูกค้า พร้อมกับทำลายความน่าเชื่อถือไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

การสร้างลิงค์ที่เหมาะสมจะต้องเป็นเครื่องมือนำไปสู่หน้าที่ลูกค้าต้องการ โดยการทำลิงก์แบบเฉพาะเจาะจงไปในเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง สินค้าและบริการจับตลาดลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาเกิดความต้องการและตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะยอดขายคือเป้าหมายหลักของธุรกิจ ลองติดตามคู่แข่งที่ขายสินค้าหรือบริการลักษณะเดียวกัน แล้วประสบความสำเร็จสูง สังเกตดูว่ามีการลิงก์เว็บประเภทใดบ้าง

หลีกเลี่ยงการกระจายลิงค์ไปทั่วโดยไม่วางแผนกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดรอบคอบ ผลตอบรับอาจไม่ดีเท่าที่คาดหวัง เนื่องจากกลุ่มคนใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความสนใจแตกต่างกันไป การเชื่อมโยงลิงค์เข้ามาจำนวนมากอาจไม่มีผลต่อยอดขาย และไม่เกิดประโยชน์ หลีกเสี่ยงการสร้างลิงค์อย่างไม่เป็นธรรมชาติซึ่งเน้นจำนวนคนเข้าชมอย่างเดียว แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องด้านเนื้อหาหรือสินค้ากับเว็บนั้นเลย

การสร้างลิงค์ให้คนเข้ามาดูมากๆ มีผลต่อลำดับการค้นหาในกูเกิล ทว่า การปรับอันดับในการค้นหาของกูเกิลเป็นเพียงบันไดที่ช่วยสนับสนุนให้เว็บไซต์มีความโดดเด่น สิ่งสำคัญคือเนื้อหาในเว็บไซต์จะต้องมีคุณภาพดี ทำให้สินค้าและบริการของเราดูน่าดึงดูดใจจึงจะได้ความนิยมจากลูกค้า

หมั่นตรวจสอบดูว่าเว็บของเราถูกคู่แข่งใช้วิธีการสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์ต่างๆ ที่จะทำให้ตกอันดับหรือไม่ วิธีนี้ทำง่ายโดยการชี้ลิงค์เว็บคุณภาพต่ำเหล่านั้นเข้ามาที่เว็บของเราหรือลอกเนื้อหาของเว็บไซต์เราไปใส่เชื่อมโยงกับเว็บอื่นๆ เป็นการเขี่ยคู่แข่งให้อันดับร่วงลงมา เมื่อพบว่ามีลิงค์เข้ามาโดยที่เราไม่ต้องการ ให้จัดการบล็อกให้เรียบร้อย อัพเดทเว็บไซต์ป้องกันให้ปลอดภัยจากไวรัสและมัลแวร์ที่กำลังระบาดอย่างหนักด้วย

ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ การสร้างอันดับในการค้นหาของกูเกิลช่วยส่งเสริมยอดขายได้หากรู้จักใช้อย่างถูกวิธี การทำ SEO ก็เช่นกัน ควรมองทั้งข้อดีและข้อเสีย ดูว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจให้เราได้อย่างไรบ้าง เรียนรู้การใช้งานที่ถูกต้อง สามารถลิงค์โฆษณาเว็บไปยังลูกค้าเป้าหมายได้อย่างเจาะจงเพื่อโปรโมทเว็บไซต์และยอดขายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

บอกต่อ ! เทคนิค SEO เพื่อเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น

การทำ SEO หรือการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการค้นหาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เว็บไซต์ได้รับความสนใจน์มากขึ้น SEO ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท เทคนิค SEO มีความสำคัญมากในการส่งเสริมเว็บไซต์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตามการทำทุกอย่างด้วยตัวเองอาจเป็นงานที่ยากสำหรับคุณ แต่ในบทความนี้จะลงรายการไปที่เทคนิค SEO ที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นประโยชน์กับธุรกิจออนไลน์หรือเว็บไซต์ของคุณในการเพิ่มการเข้าชมได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

การใช้เทคนิค SEO ที่ตรงไปตรงมา

เทคนิค SEO ผิดจรรยาบรรณ คือ สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีประสิทธิภาพมากในการนำผู้ใช้มายังเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเทคนิคที่มีความไม่ยั่งยืน เพราะเทคนิค SEO ผิดจรรยาบรรณ เช่น เนื้อหาของเว็บไซต์ที่มีการซ่อน หรือการเชื่อมโยงการเปลี่ยนเส้นทาง การออกแบบและการใช้หน้าเว็บปลอมเพื่อดึงดูดการเข้าชมเว็บ เป็นต้น เป็นเทคนิคที่ถูกเรียกว่าผิดจรรยาบรรณ SEO หรือ Blckhat ซึ่งอยู่นอกข้อกำหนดในการให้บริการ ของเครื่องมือค้นหาที่สำคัญต่างๆเช่น Google, Yahoo, MSN และ Bing และจะนำปัญหาในระยะยาวจากการถูกลงโทษในอนาคต

การสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพ

การเขียนบทความที่ไม่เหมือนใครและให้ข้อมูลที่ดีแก่ผู้ชมเป็นหนึ่งใน เทคนิค SEO แบบออร์แกนิค ที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายและได้รับการจัดอันดับที่ดีในเครื่องมือค้นหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและดียิ่งขึ้นคุณสามารถลองสร้างบทความที่มีเอกลักษณ์และมีคุณภาพและพัฒนาเรื่องสถิติ SEO จะช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้ได้รับความสนใจจากคนดูมากขึ้น

การจัดเว็บไซต์อย่างสมเหตุสมผล

เว็บไซต์ที่มีการจัดระเบียบเป็นอย่างดีสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้เข้าชมและทำให้พวกเขากลับมาได้ในอนาคต เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการจัดระเบียบอย่างดี สามารถเพิ่มแถบค้นหาหรือเมนูอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้ผู้ชมพบข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายที่สุด การเพิ่มเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ก็เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดการเข้าชมเว็บ แต่ให้ควรให้แน่ใจว่าใช้ชื่อเรื่องที่สื่อความหมายที่ดึงดูดสำหรับบทความของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างแผนผังเว็บไซต์ XML ของเว็บไซต์เพื่อให้สไปเดอร์ของเครื่องมือค้นหาสามารถนำเข้าถึงทุกส่วนของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

ใช้คำหลักที่ดีที่สุด

มีเครื่องมือออนไลน์ต่างๆเช่น Google AdWords ที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกชุดคำหลักที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณ ตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ธุรกิจของคุณประกอบด้วยหมวดหมู่ต่างๆตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกอย่างน้อย 5 คำหลักหลักที่เกี่ยวข้องและใช้คำรองด้วยด้วย นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณด้วยการเพิ่มคำหลักที่เหมาะสมลงในเมตาแท็ก ภาพ คำอธิบายเนื้อหา ด้วยวิธีนี้การใช้คำหลักที่แข็งแกร่งและคำหลักที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถมีโอกาสจัดอันดับได้ง่ายขึ้นในเครื่องมือค้นหาต่างๆ

นี่คือเทคนิค SEO แบบง่ายๆและมีผลดีซึ่งช่วยพัฒนากลยุทธ์การปรับปรุงเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำอันดับใน Google หรือเครื่องมือค้นหาตัวอื่นๆได้

ใช้ Search Console ช่วยตามหน้า 404 Error

เว็บไซต์ไหนมีหน้าเสียเยอะ เกิด Error 404 ขึ้นอยู่บ่อยครั้งและจำนวนมาก ไม่ว่าคุณจะเคยทำเว็บโดเมนนี้แล้วลบทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ จนฐานข้อมูลค้นหามีลิงค์ url เก่าอยู่แต่เข้ามาแล้วเป็น 404 อยู่บ้างก็ตาม มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก การจะให้มานั่งวิเคราะห์เว็บขนาดใหญ่ยกตัวอย่างเช่น เว็บวาไรตี้ เว็บข่าว เว็บคลิปเยอะเยอะที่มีปริมาณโพสต์จำนวนมาก ให้คนมานั่งไล่หาทีละเว็บที่ละหน้าว่ามีหน้า 404 อยู่ที่ตำแหน่งใดบ้างคงจะไม่ใช่เรื่องดีนัก ใช้เวลากันเป็นเดือนแน่นอน

ตัวช่วยที่ดีกว่าคือการที่เราแอดเว็บไซต์เข้าไปที่ Google Search เครื่องมือตัวนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์โดยรวมของเว็บเราได้ดี รวมไปถึง มีการแสดงข้อมูล Error 404 ให้ดูอีกด้วยว่าในหน้าเว็บไซต์ของเรานั้นหน้าเว็บเพจได้บ้างที่เกิด 404 ขึ้นมาแล้วมันมีการลิงค์มาจากหน้าเว็บเพจใดภายในเว็บเราหรือนอกเว็บไซต์

404 บางหน้า เว็บเราอาจไม่มีอยู่

ตรงนี้เราจะต้องรู้จักด้วยว่า Search Console นั้นจะเป็นการรวบรวมข้อมูลจากบอทของ Google เป็นหลัก ซึ่งบางครั้งเว็บไซต์เราอาจจะไม่มีหน้าเว็บเพจที่ในระบบโชว์ 404 เป็นเพราะว่าชื่อโดเมนของเราอาจเคยไปฝากลิงค์มาจากที่อื่นในสมัยก่อน แล้วเราลบและทำเว็บใหม่ แต่ URL ที่เราเคยทำนั้นยังคงทำลิงค์มายังหน้าเว็บเพจเดิมที่เราได้ลบทิ้งไปแล้ว

บอทของ Google จะมีการติดตามวิธีนี้ด้วย ทำให้อาจจะมีหน้า 404 ที่เว็บไซต์ของเราไม่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเราก็สามารถข้ามในข้อนั้นไปได้ เราไปไล่ดูเฉพาะหน้าเว็บไซต์ที่เรายังคงมีอยู่ในปัจจุบันและมีการลิงค์ไปที่หน้าเว็บเพจโล่งๆหรือไม่ หากมีก็รีบกำจัดเสียปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องเพื่อให้อันดับของเว็บดียิ่งขึ้น จริงๆแล้ว 404 นั้นไม่ได้ส่งผลกับอันดับเว็บมากนักแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรจะลดปริมาณ Error Page ลงให้เหลือน้อยลงหรือไม่เหลือเลยยิ่งดี

รวมวิธีเช็คอันดับเว็บไซต์ ทำได้ด้วยตัวเอง

การเช็คอันดับให้กับเว็บไซต์ ถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่น่าลุ้นสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งผู้ที่จัดทำ SEO ให้กับเว็บไซต์นั้น ๆ ก็ตาม แต่การเช็คอันดับให้กับเว็บไซต์ ถือได้ว่ามีหลายวิธีด้วยกัน โดยแต่ละวิธีนั้นก็จะแสดงอันดับที่แตกต่างกันออกไป โดยผลของอันดับหากสมจริงหรือใกล้เคียงกับความจริงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่า จริง ๆ แล้วเว็บไซต์ของเรานั้นอยู่ที่อันดับเท่าไหร่แล้วกันแน่นั่นเอง ซึ่งวันนี้เรามีวิธีในการเช็คอันดับเว็บไซต์ 4 วิธีมากฝากกัน

เช็คอันดับเว็บไซต์ผ่านทาง google chrome โดยใช้โหมดไม่ระบุตัวตน

วิธีการเช็คอันดับทำได้ด้วยการเปิด google chrome ขึ้นมา แล้วให้กด ctrl+shift+N ซึ่งจะปรากฎหน้าต่างใหม่โดยมีรูปนักสืบที่ใส่แว่นดำและใส่หมวก หลังจากนั้นให้พิมพ์คำเพื่อทำการค้นหาโดยปกติ เพียงเท่านี้คุณจะสามารถเช็คอันดับเว็บไซต์ของคุณได้แล้ว
การเช็คอันดับเว็บไซต์ผ่านทาง google chrome จะทำให้คุณรู้ถึงอันดับของเว็บไซต์ที่สมจริงมากที่สุด แต่สำหรับเว็บไซต์ใหม่ ๆ ที่ไม่ติดอันดับ 1 – 20 อาจจะไม่สามารถเช็คอันดับผ่าน google chrome ได้

การเช็คอันดับเว็บไซต์ผ่านเว็บ natachai.com

สำหรับเว็บไซต์ natachai.com ถือได้ว่าเป็นเว็บของไทยโดยตรง โดยโปรแกรมภายในเว็บไซต์นี้จะมีลักษณะดึงข้อมูลมาจาก google โดยตรง และมีการนำมาใช้จัดเรียงอันดับอีกที ส่งผลทำให้ดูง่าย อีกทั้งเรายังคงสามารถเช็คตำแหน่งของคีย์เวิร์ดภายในเว็บไซต์เราได้อีกด้วย โดยเฉพาะคีย์เวิร์ดอันดับ 1 – 100

การเช็คอันดับเว็บไซต์โดยเช็คผ่าน google search console

การเช็คอันดับผ่านเว็บไซต์นี้ ถือได้ว่าเป็นบริการแบบฟรี ๆ จาก google โดยตรง ซึ่งจะช่วยทำให้เราได้เข้าใจถึงวิธีที่ทาง google เองได้ทำการดูแลเว็บไซต์ของเรา พร้อมทั้งวิธีเพิ่มโอกาสให้กับเว็บของเราที่จะติดอันดับในหน้าแรก ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังคงแสดงอันดับและจำนวนคำ พร้อมทั้งคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างค้นหา แล้วทำให้ค้นพบเว็บไซต์ของเราโดยตรงอีกด้วย ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ทำให้เราได้ตรวจเช็คความเป็นจริงกับสถานะของเว็บไซต์ของเราได้อย่างมากที่สุดแล้ว

การเช็คอันดับผ่าน App ใน android ที่ชื่อ seo serp mojo หรือ http://serpmojo.com

การเช็คอันดับเว็บไซต์ผ่านแอพนี้ ยังคงไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า จะสามารถทำการเช็คอันดับบนไอโฟนได้หรือไม่ แต่ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งวิธีการเช็คอันดับเว็บไซต์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

ในส่วนของการทำ SEO ผู้จัดทำทุกคนย่อมที่จะต้องการรับรู้ถึงสถานะของเว็บไซต์ของเราในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่จะรับรู้ช่องทางในการทำ SEO ต่อไป อีกอย่างข้อมูลผ่านการเช็คในแต่ละครั้ง ก็ยังคงมีข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้ศึกษาไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง

หลักเกณฑ์ของ Google ที่ใช้ในการพิจารณาเว็บไซต์

จะทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ทั้งที ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จได้จริง คุณจะต้องรู้ทันหลักเกณฑ์การพิจารณาของ google ทั้งหมดเสียก่อน เนื่องจากการรู้เท่าทัน google จะช่วยทำให้คุณสามารถเลือกใช้วิธีการ พร้อมทั้งเทคนิคต่าง ๆ รวมไปถึงการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักอย่างที่กูเกิลชื่นชอบได้อย่างถูกต้องและไม่พลาด อย่างน้อยก็ทำให้คุณไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลา เพื่อที่จะกลับมาพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองอีกครั้งหลังจากที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของ google โดยตรงนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของ google ที่ถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาเว็บไซต์โดยตรง หลักเกณฑ์ที่ถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณาเว็บไซต์ของ google การจัดอันดับเว็บไซต์ของ google มักจะมีหลักเกณฑ์บางอย่างโดยที่พวกเราอาจจะยังคงไม่รู้ ซึ่งหลักเกณฑ์ส่วนใหญ่มักจะมีความสอดคล้องกันอยู่เสมอ หากคุณสามารถปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้ตรงกับหลักเกณฑ์ทุกข้อของกูเกิลได้ คุณก็จะมีสิทธิ์ก้าวขึ้นสู่อันดับต้น ๆ และขึ้นไปติดหน้าแรกของกูเกิลได้อย่างง่าย ๆ เลยทีเดียว

Usability – ความเป็น usability นั้น สามารถอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่า คุณจะต้องพัฒนาและทำเว็บไซต์ของคุณให้กลายเป็นเว็บไซต์ที่สามารถอ่านได้ง่าย เข้าใจง่าย ตลอดจนกระทั่งเป็นเว็บไซต์ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกสบาย หากเป็นเช่นนี้เว็บไซต์ของคุณจะขึ้นอันดับได้อย่างแน่นอน

Relevance – ความเป็น relevance นั้น ถือได้ว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ค้นหาส่วนใหญ่ ต้องการที่จะค้นหาอย่างมากที่สุด และจะต้องมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนกระทั่งสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ร่วมด้วย สำหรับหลักเกณฑ์ในข้อนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานที่เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะต้องมีคุณสมบัตินี้อยู่แล้ว

Authority – ความเป็น authority นั้น หมายถึงเว็บไซต์ของคุณจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มองแล้วเกิดความสะดุดตา น่าสนใจและน่าค้นหา ซึ่งผู้ที่จะท่องในเว็บไซต์ของคุณส่วนใหญ่ พวกเขาจะต้องรู้สึกไว้วางใจและเชื่อใจในเว็บไซต์ของคุณ ว่าไม่ใช่เว็บไซต์ในลักษณะซ่องสุมไวรัสเอาไว้นั่นเอง

การที่คุณได้รู้หลักเกณฑ์การพิจารณาเว็บไซต์ของ google ในส่วนนี้จะช่วยทำให้คุณได้รู้จักและเข้าใจได้ว่า จะทำการแก้ไขปัญหาในการทำ SEO ได้อย่างไร ซึ่งถ้าหากคุณเข้าใจหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้มากยิ่งขึ้นแล้ว การปรับแต่งและการพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นที่โดนใจของ google เพื่อที่จะผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปติดหน้าแรกของ google ก็นับได้ว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป แถมการทำ SEO ในแต่ละครั้งของคุณต่อจากนี้ ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย

ก่อนซื้อโปรแกรม SEO ต้องดูให้ดีก่อน

ใครใครก็อยากมีเว็บไซต์ของตัวเองหรือแอพพลิเคชั่นของตัวเองให้ติดอยู่อันดับหนึ่งของผลการค้นหาในโหมดเป้าหมายที่เราต้องการ เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้เห็นข้อมูลเรามากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดมันจะนำมาซึ่งผลกำไรเข้าสู่เรานั่นเอง

มันไม่ได้ง่ายเสมอไป เพราะหากง่ายทุกคนคงแย่งกันทำกันไปหมดแล้ว ของอย่างนี้จะต้องรู้จักฝึกฝนประสบการณ์และทางออกที่ดีในสมัยนี้ก็คือการใช้โปรแกรมเอสอีโอเข้ามาช่วยในการคิดวิเคราะห์ในบางปัญหา เพื่อลดหย่อนเวลาในการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการ SPY ข้อมูล หากเราจะมานั่งสปายข้อมูลคู่แข่งในทุกเว็บไซต์ด้วยมือ คงจะขี้แตกเยี่ยวแตกกันไม่ใช่น้อย

สู้เราเอาเงินไปเสียให้กับเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อใช้ในการวิเคราะห์คู่แข่งอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในทางกลับกันโปรแกรม SEO นั้นส่วนมากจะคิดเป็นค่าบริการรายเดือนและมีราคาค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร เราจะต้องคิดก่อนว่าเรามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการจัดซื้อเครื่องมือ SEO ตัวนั้นมาช่วยในการทำงาน ถ้ามีความจำเป็นอย่างยิ่งขาดไม่ได้เลย ใช้แล้วลดเวลาทำงานไปได้วันละสองถึง 3 ชั่วโมงต่อให้ราคา 10,000 ต่อเดือนถ้ามันยังเป็นกระแสรายได้เชิงบวกแนะนำให้ซื้อ

คำนึงถึงความจำเป็นก่อนซื้อ

ในทางกลับกัน หากซื้อมาวิเคราะห์เพียงเว็บเดียวหรือสองเว็บก็อย่าซื้อมาเลย เพราะเค้าไม่ได้ขายตามจำนวนการใช้งาน แต่เค้าขายเป็นรายเดือนหรือรายปีเป็นส่วนมาก ดังนั้น ก่อนซื้อต้องคิดเสียก่อนไม่เช่นนั้นเงินที่เราจ่ายไปมันก็คือต้นทุนในการทำ SEO ของเราเช่นเดียวกัน จ้างอย่างฉลาด ซื้อโปรแกรมอย่างจำเป็น เราจะมีความมั่นคงในอาชีพการรับทำอันดับเว็บไซต์ได้อย่างยั่งยืน

ทำไมเว็บไม่มีลิงค์เข้า อันดับยังดีอยู่ได้ ?

จากการทำ SEO มาอย่างยาวนาน ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ยังเชื่อว่านักทำ SEO ในยุคสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ส่วนมากจะมุ่งเป้ากันไปที่เรื่องของแบคลิ้งค์เป็นหลัก เกินกว่า 50% เข้าใจว่าเว็บไซต์ไหนที่มีลิ้งคุณภาพสูงเยอะๆ จะทำให้เว็บไซต์นั้นสามารถแซงคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย แต่ในทางปฎิบัติ ณ เวลานี้มันแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง

ส่วนนึงของปัจจัยทั้งหมด

แบคลิงค์ในตอนนี้เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ใช้สำหรับการคำนวณอันดับเว็บไซต์ให้อยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหาใน Google จริงอยู่ที่มาก่อนเราจะวัดกันที่ Backlink เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันโครงสร้างต้องเปลี่ยนตามพฤติกรรมผู้ใช้ ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เว็บบอร์ดหรือเว็บต่างๆคนเล่นน้อยลง หันมาเล่นกันในโซเชียลมากยิ่งขึ้น แต่เวลาทำลิ้งย้อนกลับในโซเชียล ก็คงจะมีไม่กี่แหล่งนักที่สามารถทำได้และได้รับความนิยมสูง นอกจากนี้ ส่วนมากยังเป็นแบคลิงค์ในรูปแบบ Nofollow อีกด้วยจึงเกิดปัญหา

SEO ที่หัวโบราณก็จะกลับไปเข้าข้างความคิดตัวเองที่ว่ายังไงซะ Backlinks เยอะและแพงยังสามารถทำอันดับได้ดีอยู่เสมอ มันเปรียบเสมือนการหนีปัญหาโดยเข้าข้างตัวเองทั้งที่ความเป็นจริงปัจจุบันให้เรายึดจากพฤติกรรมผู้ใช้งานเป็นหลักว่ามีความนิยมรูปแบบไหน หากเว็บไซต์เราดีอะไรที่จะเป็นตัวบอกบอทว่าเว็บไซต์เราดี เพราะคนเข้าดูเว็บคนอาจจะเห็นว่าดี แต่บอทอาจจะเห็นขัดกัน เราจึงจะต้องทำสองอย่างนี้ไปในทิศทางเดียวกันด้วย ค่อยค่อยศึกษา SEO ไป มันคงไม่ได้ยากเกินตัวนักแต่อาจต้องใช้เวลาในการทดสอบเองซักหน่อย ดีกว่าไปนั่งเชื่อคนอื่นแบบไม่ลืมหูลืมตา

ยากก็ยาก ง่ายก็ง่าย นี่แหละ “Search Engine Optimization”

มีหลายคนที่สนใจด้าน SEO แต่กลัวเพราะคิดว่ามันยาก และจิตตกเวลาวิเคราะห์โน่นนี่แล้วผลที่ได้มันไม่ดีเท่าที่อยากให้เป็นหรือไปเข้ากลุ่มกับคนทำ SEO แล้วเขาคุยกันว่าใครทำแบบไหนได้ผลอย่างไรพอมาเทียบกับของตัวเองแล้วมันด้อยกว่าทำให้เกิดความเครียด แต่จริงๆคือ SEO จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย มันเป็นแบบนี้จริงๆ

หลายๆคนพยายามใช้ปลั๊กอินต่างๆ บางคนทำเว็บไซด์รองเป็นสิบๆสำหรับทำ BL และทำแบบคุณภาพด้วย บางคนก็หาแนวทางต่างประเทศมาปรับใช้ แต่อันดับก็ไม่ขึ้น เปลี่ยนธีมก็แล้ว ปรับโน่นนี่ก็แล้ว แต่บางคนทำๆทิ้งๆอันดับกลับดี๊ดี มันก็น่าแปลกใจ แต่มันก็เป็นเฉพาะบางครั้งบางเว็บไซด์เท่านั้น ปัจจัยด้านอันดับ SEO มีความหลากหลายยากที่จะเดาทางได้ บางคนแค่เลือกโดเมนดีๆ เลือกโฮสดีๆ มันก็ติดขึ้นมาดื้อๆโดยไม่รู้ตัวก็มี ดังนั้นการทำ SEO ที่น่าจะได้ผลคือการทำแบบธรรมชาติปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกของระบบ เราแค่ทำในสิ่งที่ควรทำกับเว็บไซด์ของเราเช่น ติดตั้งปลั๊กอินเสริมสำหรับการทำ SEO ตรวจคอนเทนต์ ตรวจส่วนต่างๆให้ได้เต็มเปอร์เซ็นต์ของคะแนน SEO โปรโมท และแลกลิงค์ ทำ BL และขยันอัพเดท ทำให้เว็บมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เน้นความสดใหม่ของคอนเทนต์ ทำไปเรื่อยๆ จัดคีย์เวิร์ดมาสับเปลี่ยนบ้างแต่ให้เน้นคำที่เราต้องการ สร้าง Tag ที่น่าจะเชื่อมโยงมายังเว็บไซด์เรา

การไปคอมเม้นท์โดยติดลายเซ็นเว็บเราในส่วนที่เราทำได้ในเว็บอื่นๆที่เราทำได้ มันก็จะช่วยให้เกิดการเข้ามาถึงเว็บไซด์เราได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้คนทำ SEO รู้กันดีและควรให้มันมาแบบธรรมชาติไม่จำเป็นต้องเครียดและอัดกับ SEO มากเพราะปัจจุบันจะว่ากันจริงๆการทำให้เว็บติดหน้าแรกนั้นบางคนไม่สนใจแล้ว เขาสนในใจการโปรโมทแบบเข้าถึงมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนค้าขาย ส่วนคนที่ทำเว็บไซด์สำหรับหารายได้ก็จะสนทางด้าน SEO แต่จะเน้นโปรโมทคู่กันไปด้วย เขาแค่คิดว่าทำแบบไหนให้คนมาเว็บเขาเยอะๆพอแล้วไม่จำเป็นต้องง้อการติดหน้าแรกเพราะปัจจุบันความสำคัญของโลกโซเชี่ยลมันเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องติดหน้าแรกแต่คนก็รู้จักได้ ดังนั้น SEO ก็เหมือนกันถ้ายึดกับอันดับหน้าแรกๆ จะเครียดไปเปล่าๆ ค่อยๆให้มันโตไปในทิศทางที่เราวางทำเว็บให้มีคุณภาพ ตามแนวทางของเราแล้วใช้การโปรโมท ใช้การแชร์ ให้คนเข้าถึงจะได้ประโยชน์ในส่วนอื่นๆมากกว่ายึดแต่อันดับ SEO เผลอๆ ทำเองก็ได้ไม่ต้องจ้างแค่อ่านข้อมูลแล้วทดลองทำตามรับรองว่า SEO จะกลายเป็นเรื่องง่ายแบบที่คุณคาดไม่ถึง